foto1
Internet & Security
foto1
Learn to build your website
foto1
Try to our Goal!
foto1
Tip & Tricks to use Computer
foto1
Operating System


Our Sponsor

side 1

Easyhome Group

krumontree200x75
isangate com 200x75
ppor 200x75
isangate net 200x75
 e mil

No. of Page View

blood donate

apple m1

ตอนแรกว่าจะไม่เขียนถึงข่าวนี้ Apple Silicon M1 เพราะมีการกล่าวถึงมากมายแล้ว สาวกผู้ภักดีหลายคนก็กระเป๋าตังค์เด้งดึ๋งๆ รอสินค้าออกมาวางตลาดกันอยู่ เหตุที่ต้องเขียนถึงก็เพราะมีน้องที่สนใจอยากใช้สินค้าของ Apple เป็นครั้งแรกถามมาหลายรอบถึงเหตุผล ข้อดี ข้อเสีย ปัจจัยอะไรหลายๆ อย่างที่เหมาะสมที่จะต้องเลือกสินค้าใหม่ราคาแพงนี้มีอะไรบ้าง กลัวว่าซื้อมาแล้วจะผิดหวังนั่นแหละ

Apple กับการสร้างแบรนด์

ต้องยอมรับว่า Apple นั้นสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งทำให้ผู้ใช้งานทั่วไปมีความภักดีต่อแบรนด์ มีความรู้สึกลึกๆ ในจิตใจว่า "คนที่ใช้สินค้าแบรนด์ Apple นั้นดูหรู ดูไฮโซ ดูดีกว่า" ได้จริงๆ ไม่ว่าจะออกสินค้าตัวใดมาก็มักจะมีความว๊าว เป็น Talk of the town ได้ทุกตัว ไม่ว่าจะมีราคาแพงมากโดยไม่มีเหตุผลอะไรมากนัก ผู้คนต่างก็พร้อมที่จะควักกระเป๋าจ่ายโดยไม่ลังเล (ยกเว้น! ผู้เขียนที่ยั้งใจไว้เสมอ เพราะจน กรอบ และเคยใช้มาแล้วถูกทอดทิ้ง)

สินค้าทุกผลิตภัณฑ์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แล้วแต่ใครจะพบเจอประสบการณ์เช่นไรบ้าง ผู้เขียนเองก็เป็นผู้ใช้งานที่ค่อนข้างถนอม ดูแลรักษาเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ค่อนข้างดี สินค้าที่ใช้งานจึงยังคงมีสภาพดีทนทาน เคยใช้สินค้า Apple มาหลายตัว เช่น Mac นี่เคยใช้ตั้งแต่ครั้งยังใช้ชิป PowerPC เป็นเครื่องแม็คที่ใช้ในงานการพิมพ์ในยุคที่ PageMaker จำเป็นสำหรับใช้ในวงการสิ่งพิมพ์มากๆ ทำต้นฉบับหนังสือ แผ่นพับ โบร์ชัวร์ ก่อนจะมาเป็น InDesign ในปัจจุบัน ได้เป็นเจ้าของจริงๆ ก็ Macbook White Late 2007 ซึ่งใช้งานได้ดีอัพเกรดฮาร์ดแวร์หลายครั้ง จนหลังสุดทาง Apple ก็ลอยแพทิ้งไม่ได้ไปต่อ (อัพเกรดโอเอสไม่ได้ ซอฟท์แวร์ต่างๆ ก็เลยพลอยใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพไปด้วย) ตอนนี้ก็ยังใช้งานได้แต่เปลี่ยนไปใช้ Linux OS แทน

สินค้าถัดมาก็ iPhone 3, 4, 5S เป็นตัวสุดท้าย ยอมรับว่าสินค้าเขาดีทนทานมาก แต่พอระบบปฏิบัติการเปลี่ยนเวอร์ชั่นที่สูงขึ้น ตัวฮาร์ดแวร์ไม่รองรับก็ถูกลอยแพแบบไม่มีเยื่อใย ลูกค้าต้องซื้อตัวใหม่เพื่อให้รองรับโอเอสใหม่ๆ ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกเพราะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มันก็ควรมีอายุใช้งานไม่เกิน 5 ปี (ใช้ได้ทนนานแล้วจะผลิตของใหม่มาขายให้ใครใช่ไหม?) แต่ทำไมเครื่องเก่าๆ ทางฝั่ง Windows มันยังอัพเกรดใช้เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อยู่นะ งงมากๆ

Apple M1 ควรซื้อเลยไหม?

มาถึงคำถามที่น้องผมถามมา หลังจากได้ดูข่าวและการคุยโวของทาง Apple ถึงความรวดเร็วและข้อดีอื่นๆ ของเครื่อง Macbook ตัวใหม่ที่ใช้ชิปตัวใหม่ของทาง Apple เองมาแทนที่ชิปของ Intel ที่เคยใช้งานมานานนับสิบปี คำตอบมี 2 แนวทางครับ

1. ผู้ใช้งานทั่วไป

ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานทั่วไป เช่น การท่องอินเทอร์เน็ต ติดต่อสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อีเมล์ ดูหนัง ฟังเพลง ทำงานเอกสารนิดๆ หน่อยๆ เป็นนักเรียนนักศึกษาค้นคว้าหาความรู้ทำรายงาน ซื้อได้เลย เพราะมันรองรับซอฟท์แวร์ใช้งานทั่วๆ ไปได้ดีอยู่แล้ว จะเป็น Macbook Air, Macbook Pro, Mac mini ก็จัดไปตามกำลังทรัพย์

2. ผู้ใช้งานเป็นอาชีพที่ใช้โปรแกรมเฉพาะ

ถ้าคุณเป็นกลุ่มคนที่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการประกอบอาชีพ หรือใช้ซอฟท์แวร์เฉพาะทาง (ที่นอกเหนือจากซอฟท์แวร์ของ Apple) ต้องหยุดคิดก่อนว่า คุณใช้ซอฟท์แวร์โปรแกรมของค่ายใด ผู้ผลิตซอฟท์แวร์นั้นได้อัพเดทให้สามารถใช้ร่วมกับฮาร์ดแวร์ใหม่ของ Apple แล้วหรือยัง? ยกตัวอย่างคนที่ทำงานด้านการตัดต่อวีดิโอ ถ้าใช้ซอฟท์แวร์ Final Cut ของ Apple เองตัวนี้ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใช้งานซอฟท์แวร์ค่ายอื่นอาจจะใช้งานไม่ได้ หรือได้แต่เกิดอาการสะดุดไม่ลื่นไหลเหมือนเดิม ต้องรอให้ผู้ผลิตซอฟท์แวร์ได้อัพเดทให้รองรับเสียก่อน เหมือนตอนที่ Apple เปลี่ยนจากชิป PowerPC มาเป็นชิป Intel ในปี 2005 ก็ต้องรอการอัพเกรดซอฟท์แวร์กันเป็นปีทีเดียว เนื่องจากสถาปัตยกรรมชุดคำสั่งในชิปที่แตกต่างกันนั่นเอง

การเปลี่ยนผ่านสถาปัตยกรรมของ Chip

การใช้ชิปประมวลผลคนละตระกูลนั้น ซอฟท์แวร์ที่จะใช้รันคำสั่งต่างๆ จะใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน ซึ่งเคยมีปัญหาตั้งแต่ทาง Apple เลือกใช้ PowerPC มาก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นชิปของ Intel (ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86 ในซอฟท์แวร์ที่เป็น 32 บิต แล้วเปลี่ยนมาเป็น x64 ในซอฟท์แวร์ 64 บิตในปัจจุบัน) แล้วมาเป็นชิป M1 (จริงๆ ก็ ARM ในอุปกรณ์โมบายล์นั่นแหละ แม้จะเป็น 64 บิตก็ตาม) ซึ่งจะต้องมีการปรับเปลี่ยนซอฟท์แวร์ให้เหมาะสมด้วย ในยุคนั้น Steve Jobs ได้ใช้ซอฟท์แวร์ที่ชื่อว่า Rosetta มาเป็นตัวแปลงสถาปัตยกรรมซอฟท์แวร์เดิมที่รันบน PowerPC ให้ทำงานบนชิป Intel ได้ ซึ่งทาง Apple เรียกว่าเป็น Universal App อยู่นานหลายปีจนผู้พัฒนาซอฟท์แวร์เจ้าอื่นๆ ได้เปลี่ยนสถาปัตยกรรมมาได้โดยสมบูร์จึงถอด Universal App ออกไปจาก OS X

PowerPC2Intel

 Apple WWDC 2005 Steve Jobs Keynote: https://youtu.be/Fglp9AByWF0

และเมื่อ Apple เปลี่ยนสถาปัตยกรรมอีกครั้งจาก Intel ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86_64 มาเป็นชิป Apple Silicon ที่เป็นสถาปัตยกรรม arm64 ก็จำเป็นจะต้องมีการแปลไบนารีโค๊ดต่างๆ จากสถาปัตยกรรมเดิมมารันบนสถาปัตยกรรมใหม่ได้ด้วย Rosetta 2 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้า Rosetta 2 นี้จะมีฝังมาในระบบปฏิบัติการตัวใหม่ของ Apple ที่ชื่อว่า macOS Big Sur

Big Sur

หลักการของ Rosetta 2 น้ันไม่ใช่ Emulator ด้วย เป็นการแปลภาษาจริงๆ เลย ต่างจากการรันแอป x86 ฝั่ง Windows บน Windows 10 เวอร์ชั่น ARM อันนั้นเป็นการ Emulator หรือจำลองความเข้ากันได้กับชุดคำสั่ง x86 ขึ้นมาอีกที ผลที่เห็นได้ชัดเลยคือ ผู้ใช้จะสามารถรันแอปเดิมบนชิป Intel ได้บนชิปใหม่ Apple Silicon M1 แต่ Apple ยังได้ระบุว่าการที่ใช้ Rosetta 2 ในการแปลดังกล่าว อาจจะส่งผลกระทบให้เวลาในการที่จะเปิดแต่ละแอปช้าลงได้

แอปส่วนมากที่สร้างมาเพื่อใช้บนชิป Intel จะสามารถใช้ Rosetta 2 แปลได้ รวมถึงแอปที่มีการคอมไพล์แบบ Just-in-Time (JIT) แต่จะไม่สามารถแปลแอปจำพวก Kernel Extensions และ Virtual Machine ได้นั่นเอง (แปลง่ายๆ ใครคิดจะซื้อเครื่องรุ่นที่ใช้ชิป M1 มาติดตั้งระบบปฏิบัติการคู่ 2 ระบบ ระหว่าง Mac กับ Windows ไม่ได้นั่นเอง คือไม่มี Bootcamp ให้เล่นแล้วนะจ๊ะ)

Rosetta 2 ไม่ได้ออกมาเพื่อทดแทนการพัฒนาแอปแบบ Native แต่เป็นการช่วยในช่วงเปลี่ยนผ่านเพื่อให้เวลากับนักพัฒนาสามารถพัฒนาแอป Universal ที่จะรันแบบ Native ทั้งบนสถาปัตยกรรม arm64 บนชิป Apple Silicon และสถาปัตยกรรม x86_x64 ได้นั่นเอง

apple m1 2

ดังนั้น ใครจะใช้ซอฟท์แวร์ในฝั่งที่ยังไม่สนับสนุนสถาปัตยกรรม ARM ก็คงต้องรอไปก่อนที่จะซื้อเครื่องรุ่นใหม่ หรือไม่ก็ไปซื้อเครื่องแม็คที่ใช้ชิป Intel เช่นเดิมไปก่อนถ้ารีบต้องใช้ทำมาหากินนะครับ

สนับสนุนให้ Easyhome อยู่รับใช้ท่านตลอดไป ด้วยการคลิกแบนเนอร์ไปเยี่ยมผู้สนับสนุนของเราด้วยครับ
นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่เว็บไซต์ Easyhome in Thailand เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)