ตามหัวเรื่องเลย "ของดีราคาถูก" อาจจะมีแต่ก็คงไม่มากนัก ด้วยขนาดที่มากมายจนคนดู คนซื้อตาโต จนอยากซื้อด้วยราคาที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินขนาดนั้น ทำให้หลายคนตกเป็นเหยื่อ ถ้าจะลองคิดสักนิดว่า เอ๊ะ! สินค้าชนิดนี้ในร้านค้า ร้านขายแถวบ้านจึงไม่มีขนาดนี้จำหน่ายเลย หรือถ้ามีขนาดใกล้เคียงก็ราคาทำไมจึงสูงกว่าจนไม่คิดอยากซื้อ เคยพูดเคยตอบคำถามกับเพื่อนๆ หลายคนที่อยากได้ไปว่า "อย่าซื้อ โดนหลอกแน่นอน" ก็ยังมีบางคนหลงทนกิเลศไม่ได้ซื้อมา แล้วก็โดนหลอกจริงๆ วางทิ้งเรียราดกันด้วยความช้ำใจ

วันนี้ ถึงกับมีคนถือมาให้ทดลอง ทดสอบกันถึงที่บ้าน เป็นยี่ห้อดังเสียด้วย รูปร่างน่าเชื่อถือกล่องอลูมิเนียมมันวาว สลักชื่อด้วยเลเซอร์อย่างแจ่ม ขนาดระบุ 2TB แต่ราคาที่ซื้อมาแค่ 100 บาทมีทอน ไม่ตาโตหลงกลซื้อได้อย่างไร ยิ่งเจอเทศกาล 12.12 ฟรีค่าส่งด้วย เลยเป็นที่มาของบทความวันนี้

ภ้าจะซื้อจริงๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงการสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ที่มีที่อยู่ในต่างประเทศ เพราะโอกาสที่เราจะเคลมสินค้าคืนเงินนั้นเป็นไปได้ยาก สินค้าที่นำมาขายถูกๆ ส่วนใหญ่มาจากการคัดทิ้งของโรงงานผู้ผลิตเนื่องจากการผิดพลาดในการผลิต ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ก็มีพวกพ่อค้าหัวใสไปเหมาซื้อมาราคาถูกๆ จำหน่าย ด้วยเทคโนโลยีของอุปกณ์การผลิตสมัยใหม่ที่มีราคาต่ำลง อย่างเครื่องสกรีนตัวอักษรลงบนผลิตภัณฑ์ เครื่องสลักเลเซอร์ลงบนวัสดุพลาสติกหรืออลูมิเนียมทำได้ง่าย จึงมีการนำเอาสินค้าตกเกรด หรือสินค้าที่มีความจุต่ำมาสกรีนหรือสลักด้วยเซอร์เป็นสินค้ายี่ห้อดัง (เลียนแบบ) และเปลี่ยนค่าความจุให้สูงขึ้นเกินจริงนำมาจำหน่ายทางออนไลน์กันมากขึ้น

สินค้าพวกนี้จะเห็นว่า มีข้อความโฆษณาแปลกๆ ที่ใช้การแปลด้วย Google Translate มาใช้ในร้านค้าออนไลน์ เช่น "ขายร้อน 1 PC/ 2PCS 32GB/ 64GB/ 1TB/ 2TB โลหะ USB ไดรว์หน่วยความจำ USB 3.0 แฟลชไดรว์ USB Stick กันน้ำไดรว์ปากกาพวงกุญแจ" ดูที่ราคาก็หลักร้อยเท่านั้น แต่ถ้าเราไปดูพวกร้านค้าขายที่เป็นตัวแทน หรือร้าน Official ของสินค้านั้นๆ ในประเทศไทย จะไม่มีพวกความจุสูงๆ ระดับ TB ขายกันเลย คราวนี้ถ้าเราไปดูสินค้าหน่วยความจำพวก SSD ที่มีหน่วยความจำตั้งแต่ 256 MB ไปจนถึง 1 TB ก็จะเริ่มต้นกันที่หลักพันบาทขึ้นไปแล้ว เชื่อได้อย่างไรว่า Flash Drive USB 2TB ราคาหลักร้อยบาท

มีหลายคนหลงกลซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ถึงกับผ่าดูข้างในก็จะเจอแบบรูปข้างบน คือทำกล่องบรรจุภายนอกเสียดีแต่ข้างในนั้นไม่มีอะไรเลย นอกจาก Chip หน่วยความจำราคาถูกๆ สักตัว ที่เหลือก็ใส่หัวน็อต ถุงทรายเพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ดูดี ทีนี้เรามาดูการเปรียบเทียบสินค้าแท้กับปลอมนั้นแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ก่อนจะตัดสินใจซือมาใช้กัน

เท่าที่เคยทดสอบกับสินค้าปลอมพวกนี้ จากที่เพื่อนๆ นำมาให้ลองพบว่า ความจุเกินขนาด ราคาถูกเกินจริง ดูเหมือนจะใช้ได้ปกติในตอนแรก ตรวจสอบความจุจากเครื่องคอมพิวเตอร์ในส่วน Properties ก็ตรงตามที่บอก (แต่จริงๆ เราโดนหลอก) แต่พอนำไปสำเนาข้อมูลลงไปจะเห็นว่าทำได้เร็วในช่วงแรกๆ และเริ่มช้าลง เมื่อใช้ไปสักพักข้อมูลที่เราใส่ไปในอุปกรณ์เก็บข้อมูล หรือ แฟลชไดร์ฟ นั้นกลับหายไปหน้าตาเฉยเลยก็มี จะกู้ข้อมูลกลับมาก็ไม่ได้ เพราะข้อมูลไม่ได้มีอยู่แต่แรก หรือข้อมูลถูกเขียนทับวนซ้ำไปมาแล้วก็ได้ ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้เลย เราควรทำอย่างไร?

ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายในประเทศ มีการรับประกัน เปลี่ยนคืนได้ง่ายเท่านั้น "

ถ้ามีร้านขายใกล้บ้าน ราคาไม่แพงนักก็ซื้ออุดหนุนคนในท้องถิ่นเถอะครับ ให้มีใบเสร็จแสดงการซื้อขาย มีการรับประกัน เมื่อชำรุดเสียหายก็เปลี่ยนหรือคืนได้ดีกว่า ถ้าจะซื้อออนไลน์ก็ควรเป็นร้านที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก หรือร้าน Official Store จะดีที่สุดครับ เอาล่ะถ้าหลงกลซื้อมาแล้วจะตรวจสอบได้ไหม อย่างไร แล้วที่ว่าเขาหลอกเราเรื่องความจุนั้น เขาทำอย่างไร ต่อไปนี้คือคำตอบครับ

 เพิ่มขนาดความจุให้มากกว่าความจริงได้อย่างไร?

คำถามที่ว่า เขาปลอมความจุได้อย่างไร? ไม่ใช่แค่เจ้า Flash drive USB นะครับ เพื่อนผมไปเที่ยวเมืองจีนซื้อฮาร์ดดิสก์พกพามา ขนาด 1TB ราคาประมาณห้าร้อยกว่าบาท กลับมาบ้านก็ Copy ภาพจากกล้องดิจิตอลที่ไปเที่ยวมาลงไปทันที ผลปรากฏว่า พอจะเปิดดูภาพแล้วเปิดไม่ได้ ถือมาให้ผมแกะดูก็เจอแบบภาพบน แต่เปลี่ยนจากหัวน็อตเป็นถุงบรรจุทรายอัดเต็มกล่องแทน เศร้าไปเลย

กลุ่มขี้โกง (ผู้ไม่หวังดี) พวกนี้สามารถปลอมความจุได้ผ่านการดัดแปลง ตัวควบคุม (Controller) ภายใน หรือ ใช้ซอฟต์แวร์ในการเปลี่ยนค่าความจุ (Modify Capacity) ใหม่ เช่นจาก 2 GB เป็น 16 GB หรือ 16 GB เป็น 256 GB หรือมากกว่านั้น เป็นต้น และยิ่งถ้าเจอ แฟลชไดร์ฟ 2 TB (2 Terabyte) ในราคาหลักร้อย ก็ชัวร์ว่าปลอมแน่นอน! และอีกเหตุผลหนึ่งที่อุปกรณ์นี้ใช้งานได้ไม่ดี นั่นก็เพราะว่า แผงวงจรและชิปข้อมูลในของปลอมจากตลาดมืด ส่วนใหญ่เป็นการผลิตออกมาแล้วไม่ผ่าน QC มาตรฐานจากโรงงานผลิต ทำให้แฟลชไดร์ฟ หรือ การ์ดหน่วยความจำ ที่ผลิตนั้นมีคุณภาพและอายุการใช้งานต่ำมากๆ (ปกติจะถูกทำลายทิ้ง) แต่ก็มีพวกหัวใสแอบลักลอบนำออกมาขายในตลาดมืดราคาถูกๆ จึงมีการเอามาำเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมจำหน่าย

ส่วนการเทคนิคในการปลอมความจุ เช่น แฟลชไดร์ฟขนาด 2 GB ปลอมเป็น 16 GB โดยใช้การเขียนข้อมูลลงบนตัวควบคุมและแผงวงจร แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ Type A และ Type B ดังนี้

ในประเภทแรก แบบ A ผู้ใช้จะสามารถคัดลอกหลายๆ ไฟล์ ได้ถึงขนาดสูงสุดตามที่ระบุ 16 GB และรายชื่อไฟล์ที่ถูกคัดลอกและบันทึกลงในแฟลชไดร์ฟ จะดูเหมือนว่าใช้ได้ปกติ แต่ในความเป็นจริง ไฟล์ที่ถูกคัดลอกไปนั้น จะสามารถใช้งานได้แค่ "2 GB แรก" ส่วนที่เหลือหลังจาก 2 GB ไปนั้น ไฟล์จะเสียหายทั้งหมดและไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้เลย (คือมันไม่ได้ถูกบันทึกลงในหน่วยความจำแต่อย่างใด)

ส่วนในประเภทที่สอง แบบ B จะเป็นประเภทที่ดูใช้งานได้ปกติจนกว่าไฟล์ที่คัดลอกลงไปมีขนาดเกินกว่า 2 GB ถ่ายโอนข้อมูลได้ตามปกติเหมือนไม่มีปัญหาอะไร ปัญหาคือ เมื่อใดก็ตามที่ขนาดไฟล์เยอะเกิน 2 GB (ความจำที่มีอยู่จริง) ไฟล์ถัดจากนั้นที่เกิน 2 GB จะถูกเขียนที่ 0 MB ใหม่ คือเขียนทับลงบนหน่วยความจำวนไปวนมาจนหมด และทำให้ใช้งานอะไรไม่ได้สักไฟล์เลยนั่นเอง

ซึ่งการปลอมทั้งสองแบบ เราจะสูญเสียไฟล์ไปเหมือนกัน แต่แบบแรกนั้นจะยังคงใช้งานได้ในส่วนไม่เกินความจุจริง (2GB ได้อยู่) ในขณะที่แบบที่สองนั้นเจ๊งไปทั้งหมด ความเสี่ยงนี้ท่านจึงควรทดสอบก่อนที่จะลบไฟล์ต้นฉบับในเครื่องทิ้ง เพรา่ะเชื่อใจในของใหม่ที่ซื้อมา

การทดสอบไดรว์อุปกรณ์เหล่านี้ก่อนใช้งานจริง

คงแก้ไขอะไรมากไม่ได้ถ้าได้หลงกลซื้อมาแล้ว แต่ก่อนที่จะเสียข้อมูลสำคัญๆ ไป เราจึงควรทดสอบอุปกรณ์หน่วยความจำเหล่านี้ก่อนนำไปสำรองข้อมูลกัน โดยใช้โปรแกรมในการทดสอบดังต่อไปนี้

1. H2testw

โปรแกรมตัวนี้พัฒนามาตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งสมัยนั้น USB Flash drive ยังมีขนาดไม่มากนัก เมื่อมาเจออุปกร์ความจุเยอะๆ สมัยนี้เข้าก็เลยทำงานช้าไปหน่อย แต่ละเอียดดีนะ การทำงานของโปรแกรมคือ การเขียนไฟล์ขนาดใหญ่ 1GB ลงในพื้นที่ว่างแล้วอ่านกลับ หากข้อมูลการอ่านไม่เหมือนกับที่เขียนแสดงว่า อาจเกิดปัญหาได้ เรายังสามารถเลือกจำนวนข้อมูลที่กำหนดเอง เพื่อเขียนซึ่งมีประโยชน์มาก ถ้าสงสัยว่าไดรฟ์ที่เราซื้อมาน่าจะมีขนาดเพียง 4GB และไม่ใช่ 32GB อย่างที่โฆษณาไว้ทั้งหมด การทดสอบก็สามารถใช้งานได้กับข้อมูล 6GB ตัวโปรแกรมเป็นภาษาเยอรมันแต่เปลี่ยนเป็นอังกฤษได้ดังภาพ

ดาวน์โหลดโปรแกรมที่นี่ คลิกเลย

2. FakeFlashTest

โปรแกรมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้สำหรับทดสอบความจุแฟลชไดร์ฟ หรือ อุปกรณ์เก็บข้อมูลที่เป็นของปลอม ที่สามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่วินาที ด้วยโหมด "Quick Size Test" โปรแกรมจะทำการสแกนเนื้อที่ความจุภายใน เมื่อเจอความผิดปกติเช่น Bad Memory ที่จุดใดจุดหนึ่ง ตัวโปรแกรมจะแสดงผลลัพธ์ให้ดูทันที ทำให้เรารู้ได้ว่าความจุจริงๆ ของแฟลชไดร์ฟมีความจุเท่าไหร่ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ด้านล่างนี้

โปรแกรมนี้จะทำงานได้เร็วกว่าโปรแกรมแรก ข้อควรระวังคือ โปรแกรมนี้อาจทำให้ข้อมูลที่บันทึกลงไปในไดรว์ก่อนทดสอบเสียหายได้ คุณควรมีไฟล์สำรองเก็บไว้ที่อื่นก่อนนำมาทดสอบ สารมารถดาวน์โหลดไฟล์ได้จาก ที่นี่เลย

3. RMPrepUSB’s

โปรแกรม RMPrepUSB ด้านล่างนี้ก็สามารถใช้งานโหมด "Quick Size Test" เพื่อทดสอบความจุได้ ซึ่งตัวโปรแกรมจะแสดงหน้าต่างความผิดปกติให้เห็นเช่นกัน แต่โปรแกรมนี้จะมีความสามารถพิเศษอื่นๆ มากกว่า 2 โปรแกรมแรก เช่น ใช้ฟอร์แมตหน่วยความจำเป็นรูปแบบอื่น ใช้ทดสอบความเร็วการอ่านเขียนของอุปกรณ์ หรือ ใช้สร้าง USB แบบ Bootable ไว้ใช้งานอย่างการลงระบบปฏิบัติการ Windows ใหม่ ได้แทนการใช้แผ่น CD ได้นั่นเอง

สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้จากที่นี่ คลิกเลย

ยังมีโปรแกรมทดสอบอีกหลายตัวนะครับ ถ้าสนใจอยากทราบข้อมูลโดยละเอียดไปอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ที่มานะครับ

ที่มา : www.raymond.cc, www.rmprepusb.com, www.geckoandfly.com